13-should-know-paracetamol-cover

13 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับยาพาราเซตามอล

พาราเซตามอล หรือเรียกอีกอย่างว่า อะเซตามิโนเฟน เริ่มใช้ครั้งแรกในคนตั้งแต่ปี 1887 ถึงปัจจุบัน ซึ่งพูดได้เลยว่าเป็นยาที่มีประวัติมาค่อนข้างนาน เรียกได้ว่าข้อมูลของยาพาราเซตามอลที่เก็บข้อมูลมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนั้นมากมาย เนื่องจากเป็นยาที่นิยมใช้ที่สุด แต่สิ่งที่เราควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยาพาราเซตามอล เพื่อที่จะใช้พาราเซตามอลให้ปลอดภัยมีดังนี้ 1. ยาพาราเซตามอลช่วยเรื่อง? ยาพาราเซตามอลช่วยเรื่องแก้ปวดและลดไข้ ในระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง ยาพาราเซตามอลมักเป็นยาตัวเลือกแรกที่ใช้ในการลดไข้ แก้ปวดเนื่องจากผลข้างเคียงน้อยกว่าตัวอื่น โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหาร และโรคไต 2. ปวดแบบไหนใช้ไม่ได้? ยาพาราเซตามอลไม่มีฤทธิ์ลดอักเสบ ไม่เหมาะกับพวกปวดข้อที่เกิดจากการอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบ การบาดเจ็บต่างๆ 3. ปัญหาที่พบบ่อยของการใช้ยาพาราเซตามอล ปัญหาที่พบบ่อยของการใช้ยาพาราเซตามอลคือใช้เกินขนาด ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อตับอย่างรุนแรงได้ ความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้ยาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยาแก้ปวดที่ขายปัจจุบันจะมีสูตรผสมที่อาจมียาพาราเซตามอลผสมกับตัวอื่นๆ หากกินยาพาราพร้อมกับยาแก้ปวดสูตรผสมก็อาจทำให้ได้รับยาเกินขนาดโดยไม่จำเป็น เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด ต่างๆ 4. ยาพาราเซตามอลกับโรคตับ ผู้ที่ตับไม่ดีอาจเกิดพิษของพาราเซตามอลง่ายขึ้น เนื่องจากความสามารถในการเผาผลาญยาของตับแย่ลง ทำให้เกิดการสะสมสารพิษในตับง่ายขึ้น 5. ยาพาราเซตามอลกับแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับการใช้ยาพาราเซตามอลเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดพิษต่อตับเพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้งแอลกอฮอล์และพาราเซตามอลจะถูกเผาผลาญผ่านตับทั้งคู่ การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ความเป็นพิษของยาเกิดเร็วขึ้น คือ รับประทานยาขนาดปกติก็อาจทำให้เกิดพิษต่อตับได้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานทั้งสองอย่างพร้อมกันเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงต่อตับ 6. วิธีรับประทานยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง ยาพาราเซตามอลควรรับประทานตามน้ำหนักตัว สำหรับพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม น้ำหนักตัว 34–50 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 1 เม็ด น้ำหนักตัว 50–67 กิโลกรัม รับประทานครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง น้ำหนักตัวมากกว่า 67 กิโลกรัม ครั้งละ 2 เม็ด 7. ไม่ควรรับประทานเกินกี่เม็ด? ยาพาราเซตามอลขนาด 500 mg ถ้าจะให้ดีไม่ควรรับประทานเกิน 2 เม็ดต่อครั้ง และไม่ควรเกิน 6 เม็ดต่อวัน (ไม่เกิน 3250 มิลลิกรัมต่อวัน) เต็มที่ไม่เกิน 8 เม็ดต่อวัน (4000 มิลลิกรัมต่อวัน) ...

December 16, 2024 · 2 min

กินยาพาราเซตามอลเกินขนาดคือเท่าไร?

คำถาม กินยาพาราเซตามอลเกินขนาดคือเท่าไร? คำตอบ ขนาดยาพาราเซตามอลสูงสุดที่แนะนำโดยทั่วไปคือไม่ควรเกิน 1000 mg(2 เม็ด) ต่อครั้ง และไม่ควรเกิน 4000 mg(8 เม็ด) ต่อวัน หากรับประทานเกินนี้ถือว่าเกินขนาด ซึ่งแต่ละคนจะเกิดพิษแตกต่างกัน ผู้ที่มีน้ำหนักน้อย ตับไม่ดี ดื่มเหล้าเป็นประจำ จะเกิดพิษง่ายกว่าคนปกติ พาราเซตามอล 1 เม็ด โดยทั่วไปมีขนาด 500 mg การรักษาผู้ที่ได้รับพาราเซตามอลเกินขนาดจะดูจาก"ปริมาณที่ได้รับและเวลาตั้งแต่กินยา" หาก… ได้รับยามากกว่า 150 mg/kg (เช่น ถ้าน้ำหนัก 50 kg จะเท่ากับมากกว่า 15 เม็ด): ต้องได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด ควรรีบไปโรงพยาบาล หากมาเร็วภายใน 1 ชั่วโมงจะมีการให้ผงถ่านเพื่อลดการดูดซึมยาเข้าร่างกาย อาจมีการเจาะเลือดเพื่อวัดระดับยาในเลือด หลังจากนั้นอาจได้รับการรักษาด้วยยา Acetylcysteine(NAC) ต่อไป ขึ้นกับเวลาที่ไปโรงพยาบาลด้วย หากไปยิ่งเร็วยิ่งดี ได้รับยาอยู่ในช่วง 75–150 mg/kg (เช่น ถ้าน้ำหนัก 50 kg จะเท่ากับ 7.5 เม็ด-15 เม็ด) หรือไม่ทราบปริมาณที่กินเข้าไป: ต้องเฝ้าระวัง ควรไปโรงพยาบาลเพื่อประเมินความรุนแรง สิ่งที่ควรทราบเมื่อกินยาพาราเกินขนาด เพื่อที่บุคลากรทางการแพทย์จะได้ตัดสินใจทำการรักษาได้รวดเร็วที่สุด เวลาที่กิน ปริมาณที่กิน(กี่เม็ด?) หากคิดว่ารับประทานพาราเซตามอลมากเกินไป ควรไปพบแพทย์ทันที ยิ่งเร็วยิ่งดี ผู้ตอบ: เภสัชกรประจำเว็บไซต์ iam-goods.com ...

December 18, 2024 · 1 min

ยาพาราตั้งครรภ์กินได้ไหม?

คำถาม ยาพาราตั้งครรภ์กินได้ไหม? คำตอบ แม้ว่ายาพาราเซตามอลจะเป็นยาแก้ปวดที่ดูจะปลอดภัยในคนท้องที่สุด แต่ก็ยังมีสิ่งที่ควรระมัดระวังอยู่ โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาและปริมาณการใช้ยาเป็นหลัก แบ่งเป็น 2 กรณี ใช้บางครั้งคราว ทำได้ ค่อนข้างปลอดภัย ✅ ใช้ต่อเนื่องนานๆ ไม่แนะนำ เนื่องจาก.. ⚠️ ผลต่อเด็กหากใช้ยาพาราเซตามอลต่อเนื่องนานๆ ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงมาก แต่อาจมีผลต่อพัฒนาการของลูกในท้องได้ โดย ผลต่อทารกในครรภ์หลักๆ คือเพิ่มความเสี่ยงในการพัฒนาของสมอง ระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินปัสสาวะ เสี่ยงต่อโรคหอบหืดและหายใจมีเสียงหวีดเพิ่มมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงโรคสมาธิสั้นหรือที่เรียกว่า attention-deficit/hyperactivity disorder (ADHD) จะมีปัญหาในการการโฟกัส การรักษาสมาธิ กระสับกระส่าย มีปัญหาในการรอคอย ลำบากในการทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ในบุตรชาย เช่น ระยะห่างระหว่างอวัยวะเพศกับทวารหนักสั้นลง (AGD) ร่วมกับระดับฮอร์โมนที่ลดลงในช่วงพัฒนาการที่สำคัญ งานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าการได้รับยาพาราเซตามอลเป็นเวลานานขณะตั้งครรภ์ส่งผลเสียต่อเด็ก อย่างไรก็ตาม พบว่าความเสี่ยงจากการได้รับยาในระยะสั้นนั้นน้อยหรือไม่มีเลย ระยะเวลาที่ได้รับยาพาราเซตามอล การได้รับยาพาราเซตามอลระยะสั้น: การได้รับยาพาราเซตามอลเป็นเวลา 24 ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน แทบไม่ส่งผลต่อการพัฒนาของสมอง การได้รับยาพาราเซตามอลระยะยาว(ต่อเนื่อง): การได้รับยาพาราเซตามอลเป็นเวลามากกว่า 1 สัปดาห์หรือมากกว่า ส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมอง การสืบพันธุ์ และโรคหอบหืดในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการได้รับยาอย่างต่อเนื่องตลอดการตั้งครรภ์ จะเสี่ยงมากที่สุดหากรับประทานยาเป็นเวลานานและบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่สองและสามของการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับการใช้ในระหว่างตั้งครรภ์นานกว่าสองหรือสี่สัปดาห์ ผลต่อแม่ เพิ่มความเสี่ยงโรคโลหิตจาง เพิ่มความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ มักเกิดไตรมาส 3 ของการตั้งครรภ์ การรับประทานยาพาราเซตามอลมากเกินไปขณะตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตับ ไต และภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ได้ มีรายงานว่าทำให้เกิดปัญหาคล้ายกันในทารก แม้ว่าผลงานวิจัยจะสังเกตเห็นความผิดปกติดังที่กล่าวมา แต่ทั้งนี้ยังต้องรองานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลที่ชัดเจนต่อไปในอนาคต ...

November 28, 2024 · 2 min

ยาพาราห้ามกินเกินกี่เม็ด?

คำถาม ยาพาราห้ามกินเกินกี่เม็ด? คำตอบ ยาพาราเซตามอล ขนาดยาเม็ด 500 mg ที่ขายตามท้องตลาด ถ้าจะให้ดี ไม่ควรรับประทานเกิน 2 เม็ดต่อครั้ง (1000 mg) และ ไม่ควรรับประทานเกิน 6 เม็ดต่อวัน (ไม่เกิน 3250 mg) เต็มที่ไม่เกิน 8 เม็ดต่อวัน (4000 mg) โดยแต่ละครั้งกินให้ห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หากรับประทานเกินขนาดมีโอกาสเกิด การรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาดทำให้ตับเสียหายได้ เมื่อร่างกายได้รับพาราเซตามอลมากเกินไป ตับจะผลิตสารพิษที่ชื่อ NAPQI ออกมา NAPQI เริ่มสะสมและจับกับเซลล์ตับ ทำให้เซลล์ตับเสียหายหรือเกิดเนื้อตายในตับ ขนาดยาพาราเซตามอลที่เป็นพิษ ขนาดยาที่เริ่มเป็นพิษจะเริ่มที่ 7.5 g ต่อวัน ถึง 10 g ต่อวัน การรับประทานยาในขนาดปกติไม่น่าจะทำให้เกิดพิษต่อตับ แต่อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่เกิดพิษต่อตับจากการใช้ยาพาราเซตามอลในขนาดที่ใช้ในการรักษา โดยผู้ที่มีความเสี่ยงคือ ผู้ที่มีภาวะตับไม่ดีอยู่แล้ว ดื่มแอลกอฮอล์เรื้อรัง ขาดสารอาหาร หรือรับประทานยาที่กระตุ้นเอนไซม์ (เช่น isoniazid) มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดพิษจากยาพารามากขึ้น วิธีป้องกันสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือ ลดขนาดยาลง รับประทานให้น้อยกว่า 6 เม็ดต่อวัน (3 g) อาจช่วยลดความเสี่ยงการเป็นพิษต่อตับได้ นอกจากนี้ยาที่ขายในท้องตลาดหลายยี่ห้ออาจเป็นยาตัวเดียวกันนี้ ควรดูรายละเอียดในฉลากยาให้ดีกว่าเป็นยาชนิดเดียวกันไหม เช่น ไทลินอล ซาร่า พาราแคพ ซีมอล ต่างก็เป็นยาพาราเซตามอลเหมือนกัน ยาสูตรผสมแก้ปวดบางตัวก็มีการผสมยาพาราเซตามอลเข้าไป เมื่อกินยาแก้ปวดหลายตัวพร้อมกันก็มีโอกาสได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาดได้ หากไม่มั่นใจสามารถสอบถามที่ร้านยาใกล้บ้านได้ ...

November 27, 2024 · 1 min

ยาพาราออกฤทธิ์ภายในกี่นาที?

คำถาม ยาพาราออกฤทธิ์ภายในกี่นาที? คำตอบ ยาพารา หรือชื่อเต็มๆ คือ พาราเซตามอล(paracetamol) ถ้าเป็นรูปแบบเม็ด(tablet) หรือ แคปซูล(capsule) โดยทั่วไปจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 30-60 นาทีหลังจากรับประทาน หากต้องการให้ออกฤทธิ์เร็วขึ้นควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะอาหารสามารถรบกวนการดูดซึมยาทำให้ออกฤทธิ์ช้าลงได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องระคายเคืองกระเพาะอาหารเพราะยาตัวนี้ไม่กัดกระเพาะอยู่แล้ว ซึ่งสาเหตุคือปกติอาหารจะเดินทางจากกระเพาะไปลำไส้เล็ก การมีอาหารในกระเพาะต้องใช้เวลาย่อยก่อน ทำให้เพิ่มเวลาที่อาหารจะไปถึงลำไส้เล็ก ซึ่งยาพาราเซตามอลนี้ถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก การมีอาหารในกระเพาะจึงทำให้ออกฤทธิ์ช้าลงได้เพราะใช้เวลานานขึ้นกว่ายาจะไปถึงลำไส้เล็ก หากรับประทานยานี้ขณะท้องอิ่ม อาจต้องใช้เวลาถึงสองเท่าจึงจะออกฤทธิ์ นอกจากนี้พาราเซตามอลจะใช้เวลาในการออกฤทธิ์ลดไข้นานกว่าการบรรเทาอาการปวด ผู้ตอบ: เภสัชกรประจำเว็บไซต์ iam-goods.com อ้างอิง Paracetamol - Generic Medicine Info. Available at: https://www.mims.com/thailand/drug/info/paracetamol?mtype=generic (Accessed: 25 November 2024) How long does it take for Tylenol to start working?. Available at: https://www.drugs.com/medical-answers/how-long-for-tylenol-start-work-513549/ (Accessed: 25 November 2024)

November 25, 2024 · 1 min