จุดมุ่งหมายแรกในการเลือกซื้อเครื่องวัดความดันคือต้องการความแม่นยำในการวัดความดัน เนื่องจากค่าที่วัดได้จะเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรง ซึ่งในท้องตลาดนั้นมีจำนวนยี่ห้อมากมาย เครื่องวัดความดันแต่ละรุ่นต่างก็มีความเหมาะสมกับแต่ละคนต่างกัน และที่สำคัญแต่ละยี่ห้อก็มีคุณภาพต่างกัน
วิธีการเลือก
- เครื่องวัดความดันที่ดีนั้นควรเป็นแบบวัดที่ต้นแขน (upper arm) ซึ่งจะให้ค่าที่แม่นยำกว่าแบบวัดที่ข้อมือหรือนิ้ว
- ควรมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่อ่านค่าได้ชัดเจน
- เลือกเครื่องวัดความดันที่มีมาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องของการวัด หมายถึงเครื่องวัดความดันนั้นๆ สามารถวัดแล้วได้ค่าตรงตามที่ควรจะเป็นจริงๆ จากองค์กรที่เชื่อถือได้ อย่างเช่น European society of hypertention, AAMI, BHS เป็นต้น
ทีนี้ก็มาดูว่าเครื่องวัดความดันที่ได้มาตรฐาน ที่ขายในไทยมียี่ห้ออะไรบ้าง
เกณฑ์การเลือกยี่ห้อ
- เครื่องวัดความดันได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
- ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการผลิตอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานสูง จาก U.S. Blood Pressure Validated Device Listing มี 3 ยี่ห้อที่ขายในไทย คือ omron microlife และ beurer จึงจัดให้อยู่ในเกณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่รู้จักในระดับสากล
- ราคาสมเหตุสมผล
เครื่องวัดความดันรุ่นมาตรฐานที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2024
1. Microlife B2 basic
- ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากล ได้แก่ ESH, BHS, และ AAMI
- จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จุดเด่น
“ครอบคลุม คุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบการทำงานกับราคา”
ผ้าพันแขนที่ครอบคลุมขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ (22–42 cm) แขนใหญ่ขึ้นมาหน่อยสามารถใช้ได้ มีระบบ gentle+ ลดความเจ็บแขนขณะวัด มีสัญญาณเตือนอัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ มีการแจ้งเตือนหากใส่ปลอกแขนผิดวิธี บันทึกค่าความดันไว้ดูย้อนหลังได้ 30 ค่า คนท้องใช้งานได้ มีอุปกรณ์มาให้ครบถ้วนในกล่อง
ประกัน: 5 ปี
การแปลผลความดัน: ใช้แถบสีด้านข้างซ้ายในการแปลผล โดยจะมีสามเหลี่ยมชี้ที่แถบ มี 3 ระดับ คือความดันปกติ ความดันสูง และความดันสูงที่ควรไปพบแพทย์
เหมาะกับใคร
ผู้ใช้งานทั่วไปที่อยากได้เครื่องวัดความดันคุณภาพดี ครอบคลุมการใช้งานพื้นฐานที่จำเป็นในราคาที่สมเหตุสมผล
ความคิดเห็น: มีรุ่นที่ใช้งานง่ายกว่านี้
ราคาประมาณ: 1415 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
เช็คราคา: Shopee
2. Omron HEM-8712
- ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากล ได้แก่ ESH และ AAMI
- จากประเทศญี่ปุ่น
จุดเด่น
“ใช้งานง่ายที่สุด เหมาะกับผู้สูงอายุ”
บนหน้าจอมีแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น มีระบบ IntelliSense ช่วยให้บีบรัดแขนน้อยลง มีสัญลักษณ์เตือนหากพันปลอกแขนไม่ถูกต้อง
ประกัน: 3 ปี (ต้องลงทะเบียนออนไลน์ถึงจะได้เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี)
การแปลผลความดัน: มีสัญลักษณ์ขึ้นมาหากความดันสูงกว่าปกติ เกิน 135/85 mmHg
เหมาะกับใคร
ผู้สูงอายุ เนื่องจากใช้งานง่ายที่สุดมีแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเรียนรู้การใช้งานเยอะ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการ monitor ตัวเองแบบไม่ยุ่งยาก
ความคิดเห็น: ไม่มีสายแถมมาให้เหมือนยี่ห้ออื่น ต้องใช้ถ่าน ถ้าต้องการเสียบสายต้องซื้อ adapter เพิ่ม ในราคาประมาณ 650 บาท บันทึกค่าที่วัดได้ล่าสุดค่าเดียว ไม่มีสัญญาณเตือนอัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ ไม่ได้แนะนำให้ใช้ในคนท้อง ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับความสามารถของเครื่อง แต่เป็นยี่ห้อที่นิยมมากๆ ในสถานพยาบาล
*แนะนำให้ซื้อกับ Omron official store เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีของปลอมเยอะมากในตลาด
ราคาประมาณ: 1800 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
3. Beurer BM28
- ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากล ได้แก่ ESH
- จากประเทศเยอรมนี
จุดเด่น
“ฟังก์ชันพื้นฐานครบถ้วน”
ผ้าพันแขนที่ครอบคลุมขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ (22–42 cm) แขนใหญ่ขึ้นมาหน่อยสามารถใช้ได้ ตรวจจับอัตราการเต้นผิดปกติของหัวใจได้ คนท้องใช้ได้ บันทึกค่าความดันไว้ดูย้อนหลังได้ 30 ค่า(4 คน) ตั้งเวลาแจ้งเตือนได้
ประกัน: 5 ปี
การแปลผลความดัน: มีแถบสีที่ชัดเจนในการช่วยแปลผลความดัน แบ่งเป็น 4 ระดับ สีเขียว = ปกติ, เหลือง = สูงเล็กน้อย, ส้ม = สูงปานกลาง, แดง = สูงมาก
เหมาะกับใคร
คนทั่วไปที่อยากได้ฟังก์ชันครบครัน คนท้อง
ความคิดเห็น: ราคาสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ความสามารถใกล้เคียงกัน
ราคาประมาณ: 1988 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
เครื่องวัดความดันรุ่นพิเศษที่ได้มาตรฐาน มาพร้อมกับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
4. Omron HEM-7156T
- ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากล ได้แก่ ESH และ AAMI
- จากประเทศญี่ปุ่น
จุดเด่น
“App บันทึกความดัน ผ้าพันแขนใช้ง่าย”
นอกจากคุณสมบัติที่มีในรุ่นพื้นฐานของ Omron แล้ว รุ่นนี้ส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือผ้าพันแขน IntelliWrap สวมใส่ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่ผ้าพันแขนผิดวิธี ผ้าพันแขนครอบคลุมขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เชื่อมต่อ App(Omron connect) ผ่าน blutooth แล้วสามารถบันทึกค่าเพื่อดูในมือถือได้ คนท้องใช้ได้
ประกัน: 3 ปี (ต้องลงทะเบียนออนไลน์ถึงจะได้เพิ่ม 3 ปี รวมเป็น 6 ปี)
การแปลผลความดัน: มีสัญลักษณ์ขึ้นมาหากความดันสูงกว่าปกติ เกิน 135/85 mmHg
เหมาะกับใคร
ผู้ที่อยากเก็บข้อมูลสุขภาพไว้บน App สามารถนำไปให้บุคลากรทางการแพทย์ดูได้ง่าย ผู้ที่กังวลกับการใส่ผ้าพันแขนว่าถูกต้องหรือไม
ราคาประมาณ: 2800 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
5. Microlife B3 Afib advanced
- ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากล ได้แก่ ESH, BHS, และ AAMI
- จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จุดเด่น
“เตือนภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้”
นอกจากจะมีฟังก์ชันพื้นฐานครบทุกอย่างแล้ว รุ่นนี้สามารถเตือนภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้ ซึ่งภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และมีระบบ MAM technology ซึ่งจะวัดค่าความดัน 2 ครั้งติดกัน หากค่าเหวี่ยงจะวัดใหม่เพิ่มอีกครั้ง เพิ่มความแม่นยำในการวัด และคนท้องใช้ได้
ประกัน: 5 ปี
การแปลผลความดัน: ใช้แถบสีด้านข้างซ้ายในการแปลผล โดยจะมีสามเหลี่ยมชี้ที่แถบ มี 3 ระดับ คือความดันปกติ ความดันสูง และความดันสูงที่ควรไปพบแพทย์
เหมาะกับใคร
ผู้สูงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นเพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้ คนทั่วไปที่เป็นโรคหัวใจชนิดต่างๆ หรืออยู่ในครอบครัวที่มีประวัติโรคหัวใจ
ความคิดเห็น: เมื่อเทียบกับอีกรุ่นที่เตือนภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้ รุ่นนี้คุ้มค่ากว่า
ราคาประมาณ: 3400 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
เช็คราคา: Shopee
6. Omron HEM-7361T
- ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ในระดับสากล ได้แก่ ESH และ AAMI
- จากประเทศญี่ปุ่น
จุดเด่น
“เตือนภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้ บันทึกบน App ได้”
นอกจากคุณสมบัติที่มีในรุ่นพื้นฐานของ Omron แล้ว รุ่นนี้สามารถตรวจวัดภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้ ซึ่งภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง มีผ้าพันแขน IntelliWrap สวมใส่ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่ผ้าพันแขนผิดวิธี ครอบคลุมขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เชื่อมต่อ App(Omron connect) ผ่าน blutooth แล้วสามารถบันทึกค่าเพื่อดูในมือถือได้ และคนท้องใช้ได้
ประกัน: 3 ปี (ต้องลงทะเบียนออนไลน์ถึงจะได้เพิ่ม 3 ปี รวมเป็น 6 ปี)
การแปลผลความดัน: มีสัญลักษณ์ขึ้นมาหากความดันสูงกว่าปกติ เกิน 135/85 mmHg
เหมาะกับใคร
ผู้สูงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นเพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วได้ คนทั่วไปที่เป็นโรคหัวใจชนิดต่างๆ หรืออยู่ในครอบครัวที่มีประวัติโรคหัวใจ คนท้อง
ความคิดเห็น: เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ถือว่าราคาแพงกว่าค่อนข้างเยอะ แต่รุ่นนี้จะสามารถบันทึกค่าความดันบน App มือถือได้
ราคาประมาณ: 4300 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)