ยา Magesto F กินยังไง?

• เด็ก อายุ 12-14 ปี

  • กินครั้งละ 1-3 เม็ด
  • กินหลังอาหาร
  • วันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน เย็น)

• เด็ก อายุ 7-11 ปี

  • กินครั้งละ 1-2 เม็ด
  • กินหลังอาหาร
  • วันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน เย็น)

• เด็ก อายุ 4-6 ปี

  • กินครั้งละ 1/2-1 เม็ด
  • กินหลังอาหาร
  • วันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน เย็น)

หากใช้ตามคำแนะนำของแพทย์อยู่ ให้ใช้ต่อไป ห้ามปรับขนาดยาเอง

• ช่วยย่อยอาหาร (Mamylase, Diastase): โดยเฉพาะการย่อยคาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง (starch) ให้กลายเป็นน้ำตาลที่ง่ายต่อการดูดซึม
• ลดกรดในกระเพาะ (Calcium Carbonate, Aluminium Hydroxide, Sodium Bicarbonate): บรรเทาแสบร้อน
• ลดท้องอืดและปวดท้อง (น้ำมันหอมระเหย, Scopolia): ขับลม ผ่อนคลายลำไส้

เมื่อเทียบกับยาเดี่ยว:

• ดีกว่าถ้าต้องการครอบคลุม: ยานี้เหมาะกับคนที่มีอาการผสม (เช่น ท้องอืด + กรดเกิน + ปวดเกร็งเล็กน้อย) เพราะรวมหลายคุณสมบัติในเม็ดเดียว
• ด้อยกว่าถ้าต้องการเจาะจง: ถ้ามีอาการเด่นชัด เช่น กรดไหลย้อนรุนแรง ปวดเกร็งรุนแรง หรือ ตับอ่อนหลั่งน้ำย่อยไม่พอ ยาเดี่ยวจะดีกว่า

• ชั้นกลาง: Mamylase 37.5 mg, Diastase 25.0 mg, Thiamine mononitrate 0.75 mg, Scopolia extract 2.5 mg, Dried Aluminium Hydroxide Gel 36.635 mg
• ชั้นนอก: Precipitated Calcium Carbonate 200 mg, Sodium bicarbonate 50 mg, Cinnamon Oil 0.3 mg, Clove Oil 0.3 mg, Fennel Oil 0.3 mg, Ginger Oil 0.4 mg, L-Menthol 1.0 mg

• ผู้สูงอายุควรใช้เท่าที่จำเป็น เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้ต่อเนื่องนานๆ
• ผลข้างเคียงที่อาจเกิด เช่น ปากแห้ง ท้องผูก ปัสสาวะคั่ง มองเห็นไม่ชัด หรือสับสน
• ผู้สูงอายุที่มีต้อหิน หรือภาวะต่อมลูกหมากโต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

• ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา Magesto-F หรือเลือกใช้ยาตัวอื่นที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากยานี้มี Scopolia อาจไม่ปลอดภัยหากใช้ต่อเนื่องหรือใช้ในช่วงไตรมาสแรก(1-12 สัปดาห์)

• ต้องระวัง โดยเฉพาะในโรคไตเรื้อรังหรือไตวาย
• ผู้ป่วยโรคไตเล็กน้อย อาจใช้ยานี้ได้ในระยะสั้นสำหรับอาการท้องอืดหรือกรดเกิน แต่ในโรคไตรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกยาอื่นที่ไม่มีแคลเซียมหรืออลูมิเนียม
• ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยลดการสะสมของแคลเซียมหรืออลูมิเนียมในไต

• โดยทั่วไปปลอดภัย แต่ควรระวังในโรคตับรุนแรง
• ผู้ป่วยโรคตับเล็กน้อยถึงปานกลางใช้ยานี้ได้ในระยะสั้นสำหรับอาการอาหารไม่ย่อยหรือท้องอืด แต่ถ้ามีอาการตับรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

• โดยทั่วไปปลอดภัย แต่ระวังในผู้ป่วยหัวใจที่มีภาวะบวมน้ำหรือความดันโลหิตสูง
• ผู้ป่วยโรคหัวใจเล็กน้อยถึงปานกลางใช้ยานี้ได้ในระยะสั้นสำหรับอาการอาหารไม่ย่อย แต่ถ้ามีหัวใจล้มเหลวรุนแรงหรือความดันสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงโซเดียมหรือผลจาก Scopolia

ราคาประมาณ:

• ซองละ 13-15 บาท (10 เม็ด)
• กระปุก 90-120 บาท (100 เม็ด)
• ราคาขึ้นอยู่กับร้านขายยาแต่ละที่

หาซื้อได้ที่ร้านขายยา

• ไม่แนะนำให้กินยานี้บ่อยหรือใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ แม้จะเป็นยาช่วยย่อยและลดกรด แต่ยานี้มีส่วนผสมของ Scopolia extract ซึ่งมีฤทธิ์ anticholinergic อ่อนๆ หากใช้บ่อยอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ม่านตาขยาย หรือปัสสาวะลำบาก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
• หากมีอาการท้องอืด แน่นท้อง หรือเรอเปรี้ยวบ่อย ควรหาสาเหตุที่แท้จริงและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาต่อเนื่อง

• ยานี้อาจส่งผลรบกวนยาอื่นๆ ได้ เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยารักษาไทรอยด์ ยารักษามะเร็ง กินธาตุเหล็ก และอื่นๆ อีกหลายตัว ส่งผลให้ยาอื่นประสิทธิภาพลดลง หรือเกิดพิษมากขึ้นได้
• เบื้องต้น ควรกินให้ห่างยาอื่นอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง
• ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้หากไม่มั่นใจ

• เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30°C
• เก็บในที่แห้ง หลีกเลี่ยงความชื้น และเก็บในภาชนะทึบแสง
• เอนไซม์ (Mamylase, Diastase): เป็นส่วนประกอบที่ไวที่สุดในยานี้ การเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำและแห้งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาการทำงานของเอนไซม์ ซึ่งออกฤทธิ์ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต

1. MAGESTO - F. Available at: https://ndi.fda.moph.go.th/drug_detail/index/?rctype=2A&rcno=4800039&register=MkEgMzkvNDg= (Accessed: 17 April 2025)
2. Mamylase + Diastase (MAGESTO-F). Available at: http://www.pharmbma.com/drug-list/m/339-magesto-f-tab (Accessed: 17 April 2025)
3. Fatur K, Ravnikar M, Kreft S. Scopolia carniolica var. hladnikiana: Alkaloidal Analysis and Potential Taxonomical Implications. Plants (Basel). 2021 Aug 10;10(8):1643. doi: 10.3390/plants10081643. PMID: 34451686; PMCID: PMC8401577.
4. Diastase Enzyme. Available at: https://biologyreader.com/diastase-enzyme.html (Accessed: 18 April 2025)
5. Karsten Fatur, Samo Kreft, Common anticholinergic solanaceaous plants of temperate Europe - A review of intoxications from the literature (1966–2018), Toxicon, Volume 177, 2020, Pages 52-88, ISSN 0041-0101, Available at: https://doi.org/10.1016/j.toxicon.2020.02.005. (Accessed: 18 April 2025)