ยาลดน้ำมูกที่เราคุ้นเคย อาจมีผลต่อสมองในระยะยาวจริงหรือ? มาหาคำตอบกันแบบเข้าใจง่าย พร้อมอิงงานวิจัย
Chlorpheniramine คือยาอะไร?
Chlorpheniramine หรือเรียกย่อๆ ว่า CPM ที่คนไทยคุ้นๆ ว่าเป็น “ยาแก้แพ้เม็ดสีเหลือง เล็กๆ” เป็นยาแก้แพ้และลดน้ำมูกที่นิยมใช้กันมานาน พบได้บ่อยในยาหวัดทั่วไป และสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ
แล้วทำไมถึงมีข่าวว่ายานี้อาจทำให้สมองเสื่อม?
เหตุผลที่ทำให้หลายคนเริ่มกังวล คือ Chlorpheniramine จัดอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า “anticholinergic drugs” ซึ่งหมายถึงยาที่ไปยับยั้งสารเคมีในสมองชื่อว่า acetylcholine — สารที่มีบทบาทสำคัญต่อความจำ การเรียนรู้ และการทำงานของสมอง
งานวิจัยพูดว่าอย่างไร?
📌 ความสัมพันธ์ที่พบ (แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นสาเหตุ)
- งานวิจัยเชิงสังเกตหลายฉบับพบว่า คนที่ใช้ยากลุ่มแอนติโคลิเนอร์จิกบ่อยหรือใช้ในปริมาณมาก อาจมีความเสี่ยงสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น
- อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยย้ำว่า ความสัมพันธ์นี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่ายาเป็น “สาเหตุโดยตรง” ของภาวะสมองเสื่อม
📚 ตัวอย่างงานวิจัย:
“Observational studies have shown a consistent association between anticholinergic use and dementia, but they cannot establish causation due to potential confounding factors.” — McCartney, 2015; Averbeck, 2020
แปลง่ายๆ:
งานวิจัยพบความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างต่อเนื่องระหว่างการใช้ยากลุ่มนี้กับภาวะสมองเสื่อม แต่ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า “ยาคือสาเหตุ” เพราะอาจมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุ โรคประจำตัว หรือยาตัวอื่น
แล้วเราควรกังวลไหม?
💊 ถ้าใช้เป็นครั้งคราวหรือใช้ช่วงสั้นๆ เช่นเวลาป่วยหวัดทั่วไป ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าทำให้สมองเสื่อม
แต่ถ้าใช้ยากลุ่มนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อาจควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อหาทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่า
ข้อแนะนำจากเภสัชกร
- ใช้ยาลดน้ำมูกหรือยาแก้แพ้ตามคำแนะนำ ไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน
- ถ้ามีอาการแพ้เรื้อรัง หรือหวัดบ่อย ควรหาสาเหตุหรือแนวทางรักษาระยะยาวที่เหมาะสม
- โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงยากลุ่มนี้ถ้าเป็นไปได้ เพราะสมองมีความไวต่อผลข้างเคียงมากกว่าในวัยรุ่น
สรุป
Chlorpheniramine เป็นยาที่ใช้มานานและโดยทั่วไปปลอดภัยถ้าใช้ถูกวิธี แต่ก็ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสมองได้ในระยะยาว แม้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นสาเหตุโดยตรงของสมองเสื่อมก็ตาม
บทความนี้ได้รับการตรวจสอบโดยเภสัชกร
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้อ้างอิงจากคำแนะนำทั่วไปของยา ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ส่วนบุคคลได้ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยาทุกครั้ง